หน้าแรก
งานนิติการ
ใยแมงมุมแห่งกฎหมาย
เก้าสิบปีก่อนที่เอเธนส์จะเป็นประชาธิปไตย
ได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองที่รุนแรงขึ้น
วิกฤตการเมืองที่ว่านี้เกิดจากปรากฏการณ์ทางสังคมสำคัญที่เกิดขึ้นในเอเธนส์ในช่วง
750-600
ก่อนคริสตกาล
นั่นคือ
การเพิ่มจำนวนประชากรเป็นสองเท่าในช่วงเวลาเพียงห้าสิบปี
และการเพิ่มจำนวนประชากรดังกล่าวนี้เองกลับทำให้เอเธนส์ต้องประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจอันสืบเนื่องมาจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ดำรงอยู่
และรวมถึงการไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดจากตัวแปรในด้านจำนวนประชากร
การเพิ่มจำนวนประชากรในเอเธนส์นั้นนำมาซึ่งการขยายตัวของช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน
จากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจดังกล่าวนี้เอง
ที่ทำให้มีการเรียกร้องให้มีการจัดสรรที่ดินใหม่
และจากสภาพการณ์ดังกล่าวนี้เองที่ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงสืบเนื่องติดต่อกันตั้งแต่ปี
630-530
ก่อนคริสตกาล
วิกฤตการณ์ทางการเมืองที่สำคัญในช่วงระยะหนึ่งร้อยกว่าปีอันถือเป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนการกำเนิดประชาธิปไตยเอเธนส์และได้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทางการเมืองที่สำคัญๆ
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การปฏิรูปของโซลอน (Solon)
ในปี
594
ก่อนคริสตกาล
วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมของเอเธนส์ที่ดำรงอยู่ทวีความรุนแรงอย่างยิ่ง
จนกระทั่งทั้งชนชั้นสูงและคนจนชนชั้นล่างส่วนใหญ่ต่างต่างเห็นพ้องต้องกันในการให้สิทธิ์อำนาจกับบุคคลคนหนึ่งในการที่จะหาทางประนีประนอมแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว
บุคคลผู้นี้คือโซลอน
ผู้ซึ่งมีสถานะเป็นชนชั้นสูง แต่ก็เป็นที่ยอมรับนับถือจากคนทั้งสองชนชั้น
ในขณะที่เขาได้รับมอบอำนาจให้ปฏิรูปสังคมเอเธนส์นั้น
โซลอนมีอายุประมาณไม่เกินสามสิบปีเท่านั้น
มาตรการสำคัญที่เขาใช้ในการปฏิรูปสภาพเศรษฐกิจการเมือง ได้แก่
การให้มีการนิรโทษกรรมทั่วไปแก่คนที่ต้องทำความผิดอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมที่ผ่านมา
การยกเลิกการประกันการชดใช้หนี้สินด้วยการเป็นทาส
การให้เสรีภาพแก่บรรดาผู้ที่ตกเป็นทาสเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ
และรวมถึงความพยายามที่จะปลดปล่อยผู้ที่ถูกขายไปเป็นทาสในต่างแดน
และที่สำคัญก็คือ
ยกเลิกการจ่ายค่าที่ดินที่ผู้อาศัยที่ทำกินต้องให้แก่เจ้าที่ดิน
แต่กระนั้น
โซลอนก็มิได้ทำการปฏิรูปที่ดินตามที่มีการเรียกร้อง
และยังคงยืนยันถึงการครอบครองที่ดินตามที่เป็นอยู่
นอกจากการปฏิรูปทางเศรษฐกิจข้างต้นแล้ว
โซลอนยังได้ปฏิรูประบบการบริหารงานยุติธรรม
ตามหลักฐานที่บันทึกหลังสมัยของโซลอนได้กล่าวว่า เขาได้จัดตั้ง
"ศาลประชาชน" ขึ้น
(a people"s court)
หรือที่เรียกว่า
Heliaia
และได้ให้สิทธิ์แก่ทุกฝ่ายในกรณีพิพาทที่จะอุทธรณ์ต่อ
"ศาลประชาชน"
โซลอนยังได้ขยายสิทธิ์ทางกฎหมายในการฟ้องร้อง
ซึ่งแต่เดิมนั้นจำกัดให้แต่เฉพาะผู้ที่ได้รับความเสียหายเดือดร้อนโดยตรงเท่านั้น
แต่โซลอนได้ให้สิทธิ์แก่คนทุกชนชั้นที่จะฟ้องร้องในฐานะตัวแทนของผู้เสียหาย
หรือฟ้องในฐานะตัวแทนผู้ปกป้องผลประโยชน์สาธารณะได้
นอกจากนี้ โซลอนยังได้ออกกฎหมายใหม่
ซึ่งเป็นกฎหมายที่เอเธนส์ใช้เป็นรากฐานทางกฎหมายต่อเนื่องไปอีกถึงสี่ร้อยปีจากนั้น
นั่นคือ กฎหมายที่รู้จักเรียกขานกันว่า "กฎหมายของโซลอน" (the
laws of Solon)
เอเธนส์ได้ใช้กฎหมายของโซลอนมาจนกระทั่งในช่วงปี
410-399
ก่อนคริสตกาลจึงได้มีการปรับปรุงแก้ไข
และได้บังคับใช้กฎหมายนี้ต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุดระบอบประชาธิปไตยเอเธนส์
กฎหมายของโซลอนนี้แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ
ได้แก่ กฎหมายเอกชน (private
laws)
กฎหมายอาญา (criminal
law)
และกฎหมายว่าด้วยกระบวนวิธี (law
of procedure)
อย่างไรก็ตาม
ต่อประเด็นการปฏิรูปของโซลอนนี้ อแนคคาซิส (Anacharsis)
ซึ่งเป็นคนร่วมสมัยกับโซลอน
หัวเราะเยาะการปฏิรูปของโซลอน ได้วิจารณ์ไว้ว่า เขาไม่เชื่อว่า
วิกฤตการเมืองเอเธนส์จะสามารถแก้ไขได้เพียงแค่การออกกฎหมาย
เพราะเขาเห็นว่า
"กฎหมายดังกล่าวมันเปรียบเสมือนใยแมงมุม
(spider"s
web)
ที่สามารถจะหยุดได้เฉพาะแมลงเล็กๆ
หรืออีกนัยหนึ่งคือพวกคนที่มีจิตใจอ่อนแอ (the
frail and weak)
เท่านั้น
แต่มันง่ายมากที่จะถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ
โดยคนร่ำรวยและทรงอำนาจ"
แพทย์ พิจิตร